ตำรับทำนายฝัน
ตำรับทำนายฝัน (อีกตำราหนึ่ง)
ตำราพรหมชาติฉบับสมบูรณ์
โดย สำนักพิมพ์อำนาจสาส์น
ตำรับทำนายฝัน (อีกตำราหนึ่ง)
สิทธิการิยะ เกจิอาจารย์เจ้ากล่าวไว้ว่า
อันว่าคนเรานั้นเมื่อหลับนอนอาจจะมีนิมิตมาปรากฏในฝันไปในเรื่องต่าง ๆ
อาจจะมีทั้งให้คุณและเกิดโทษจริงบ้างไม่จริงบ้าง นิมิตบอกโชคลาภบ้าง
บอกลางร้ายให้รู้ล่วงหน้าก็มี ในพระคัมภีร์สารัตถะสังคหะ ท่านกล่าวไว้ว่า
บุคคลชายหญิงย่อมฝันด้วยเหตุ 4 ประการ กล่าวคือ
1.
บุรพนิมิต กล่าวคือ มีเหตุอันเกิดจากเรื่องราวในอดีต
มาปรากฏให้คนนั้นฝันไป มักจะเป็นเหตุการณ์จริง มาปรากฏบอกลางหรือโชคลาภ
2.
จิตนิวรณ์ กล่าวคือ ถ้าหากจิตใจคนใด
เกิดมุ่งมั่นอยากได้อยากดีต่อสิ่งใดมากเกินไป คนนั้น เมื่อเวลานอนหลับ
มักจะนำเอามาคิดฝันเป็นเรื่องเป็นราวไป ดุจว่าเป็นเรื่องจริงเรื่องจัง
3.
เทพสังหรณ์ กล่าวคือ เทพยดา เจ้าป่า
เจ้าเขาเข้ามาสังหรณ์ใจให้ฝันไปเองโดยไม่นึกคิดมาก่อน เช่น มาดุลใจให้ฝันว่า
ให้ไปเอาลายแทงขุมทรัพย์บอกที่ฝังไหเงินไหทองของโบราณ เป็น
ต้น
4.
ธาตุโขภะ กล่าวคือ คนที่กินมาก นอนมาก จนท้องไส้อืด
ท้องขึ้นท้องเฟ้อ ธาตุไม่ย่อย เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เวลานอนหลับไม่สนิท
จึงฝันไปไร้สาระไม่มีมูลความจริงหรือให้ประโยชน
แต่อย่างใดเลย
ตามหลักโหราศาสตร์ เกี่ยวกับการทำนายฝันท่านกล่าวว่า
ถ้าฝัน วันอาทิตย์ นิมิตนั้นได้แก่ ปวงประชา
ถ้าฝัน วันจันทร์ นิมิตนั้นได้แก่
ญาติพี่น้อง
ถ้าฝัน วันอังคาร นิมิตนั้นได้แก่ บิดา
มารดา
ถ้าฝัน วันพุธ นิมิตนั้นได้แก่ บุตร-ภรรยา
ถ้าฝัน วันพฤหัสบดี นิมิตนั้นได้แก่ ครูอาจารย์
ถ้าฝัน วันศุกร์ นิมิตนั้นได้แก่ มิตรสหาย
ถ้าฝัน วันเสาร์ นิมิตนั้นได้แก่ ตัวของผู้ฝันเอง
โบราณาจารย์ท่านเชื่อในเรื่องนิมิตฝันมาก และมักปฏิบัติตามด้วย
แม้ในพงศาวดาร พระเจ้าแผ่นดินไทย หรือแม้ในวรรณคดีก็ปรากฏมีเรื่องฝัน ๆ
ซึ่งนับว่าต้องเคยเป็นเรื่องจริง ๆ มาแล้วด้วย
ดังจะยกมากล่าวไว้ในที่นี้สักเล็กน้อยก่อนจะถึง ทำนายฝันมหาปัตเวยน
ที่นับว่าแม่นำต่อเหตุการณ์ในปัจจุบันมากที่สุด แม้จะปรากฏว่ามีมาแล้วประมาณ 2500
ปีเศษมาแล้ว คือว่าไว้แต่สมัยพุทธกาลโน้น
ทำนายฝันของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ตามพงศาวดารปรากฏว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
เมื่อครั้งเสด็จออกทำศึก ยุทธหัตถี
จนมีพระเกียรติลือเลื่องไปทั่วประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงนั้น
ระหว่างทางพระองค์ทรงสุบิน (ฝัน) ว่าขณะลงสรงสนานในชลาธารใหญ่ (ลงอาบน้ำในแม่น้ำ)
พบว่าจระเข้ยักษ์ขนาดใหญ่
ว่ายเข้ามาหมายจะทำร้ายพระองค์ในฝันปรากฏว่าพระองค์ได้ต่อสู้กับจระเข้ยักษ์นั้น
และสามารถฆ่าสังหารมันตายได้ในที่สุด...พอวันรุ่งอรุณของวันใหม่พระองค์ทรงเรียกโหรหลวงเข้าเฝ้า
ตรัสถามถึงนิมิตฝันเมื่อคันนี้ ท่านโหราจารย์ปุโรหิตได้ถวายคำพยากรณ์ว่า ...ขอเดชะ
พระองค์ออกศึกคราวนี้
จะทรงมีชัยชนะอริราชศัตรูจะมีพระเกียรติยศระบือไปทั่วนานาประเทศใกล้เคียง
ก็สมจริงตามนิมิตฝันนั้น
เพราะพระองค์ทรงสามารถชนช้างเอาชนะพระมหาอุปราชแม่ทัพพม่าได้โดยทรงฝันคอแม่ทัพพม่าขาดตายบนคอช้าง
ท่ามกลางสนามรบ ที่ตำบลหนองสาหร่าย เขตบ้านตะพังกรุ แขวงเมืองสุพรรณบุรี
ดังปัจจุบันทางราชการได้สร้างพระเจดีย์ใหญ่และอนุสาวรีย์ทรงช้างไว้เฉลิมพระเกียรติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชแล้วนั้นแล
ทำนายฝันของพระนางมัทรี
ตามวรรณคดีทางพระพุทธศาสนา เรื่องพระเวสสันดรชาดก กล่าวถึงพระนางมัทรี
ต้องเสด็จออกจากสีพีนคร ติดตามพระเวสสันดร สวามีพร้อมด้วยกัณหา-ชาลี
บุตรน้อยทั้งสองเพื่อปรนนิบัติพัดวีตามประสากุลสตรีที่ดีงาม
ขณะอยู่ในเขาวงกตป่าใหญ่นั้น พระนางมัทรีมีหน้าที่กระทำทุกอย่าง
เช่น หาอาหาร หาผลหมากรากไม้มาถวายสวามีและบุตรน้อย
นับว่าได้รับความลำบากมากทีเดียว
วันหนึ่ง พระนางมัทรีขณะม่อยหลับไปเกิดมีนิมิตฝันว่ามีบุรุษร่างใหญ่
ตัวดำทะมึน นุ่งผ้าโจงกระเบน ร่างกำยำทะมันทะแมง ทัดดอกไม้แดง มือขวาถือดาบคมมะเมี่ยม
เดินมุ่งหน้ามายังอาศรม ใช้เท้าถีบประตูพังทลายลง
พอเห็นพระนางก็รี่เข้ามารวบมวยผมโมลีเหวี่ยงดาบฉวัดให้พระนางล้มลง ตัดแขนทั้ง 2
ข้าง ยังไม่สาแก่ใจ บุรุษใจร้ายยังควักลูกนัยน์ตาทั้ง 2 ข้างไปอีกด้วย
แถมท้ายยังควักเอาหัวใจของพระนางไปอีก
พระนางส่งเสียงร้องจนสุดเสียงด้วยความตระหนกตกใจกลัวสุดขีด
พระนางไม่ทันได้ร้องขอความกรุณาเลย....
ยังไม่ทันสว่างพระนางมัทรีรับเข้าไปสวมกอดกัณหา-ชาลีบุตรสุดที่รักไว้แนบอกพลางคิดไปต่าง
ๆ นานา ว่าต้องมีเหตุอาเพศร้ายกับพระสวามีหรือไม่ก็กับลูกทั้งสองของพระนางแน่ ๆ
ใกล้รุ่งอรุณ พระนางมัทรีได้เข้าไปเฝ้าพระเวสสันดร
สามีเพื่อทูลถามลางร้ายในฝันเมื่อคืนนี้
ความจริงพระเวสสันดรทรงทราบดีว่าจะต้องมีเหตุร้ายเกิดขึ้น แต่พอพระนางทูลถาม
พระองค์จึงเลี่ยงทำนายไปว่า การที่ฝันไปอย่างนั้นเป็นเพราะมาอยู่กลางป่าพนาสณฑ์
ได้รับความลำบากมากนั่นเอง จึงทำให้ฝันไปทำนองร้าย ๆ
อย่าได้สนใจใส่ใจกับเรื่องที่ฝันนั้นเลย ไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้นหรอก
หากพระองค์จะบอกตามความจริงก็เกรงว่าพระนางจะขวางทางโลกุตตร อย่างไรก็ตามพระนางมัทรีหาหมดความกังวลใจไม่
จำพระทัยต้องออกไปแสวงหาผลไม้เพื่อนำมาถวายพระสวามีและให้ลูกน้อย
พระนางได้นำเอา 2 กุมารน้อยไปฝากพระเวสสันดร
แล้วจึงหาบกระเช้าผลไม้เข้าป่าไป ในที่สุดพระนางต้องสูญเสีย 2
กุมารลูกสุดที่รักไปเพราะพระเวสสันดรให้เป็นทานแก่เฒ่าชูชก พราหมณ์ขอทานไป
ความฝันในเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน
นิมิตที่ 1 ความฝันของนางทองประศรี
ทองประศรีนอนหลับแล้วกลับฝัน
ความกลัวตัวสั่นตกใจหวาม
สะดุ้งตื่นฟื้นขึ้นให้ครั่นคร้าม อารามตกใจปลุกซึ่งสามี
ขุนไกรถามว่าอะไรเจ้า
นางจึงเล่าความฝันนั้นถ้วนถี่
ว่าฟันฉันหักกระเด็นเห็นไม่ดี
ช่วยทำนายฝันนี้ให้แจ้งใจฯ
ด้วยนิมิตฝันนี้เอง
ขุนไกรสามีของนางถูกสมเด็จพระพันวสาสั่งประหารชีวิต เพราะเมียฝันว่าฟันหัก
โบราณว่ามักจะเกิดเหตุร้ายเกี่ยวกับคนรัก ญาติผู้ใหญ่ ต้องถึงแก่ความตาย
นิมิตที่ 2 ความฝันเกี่ยวกับการกำเนิดบุตร
มาจะกล่าวถึงนางทองประศรี
นอนด้วยสามีในเรือนใหญ่
นิมิตนั้นว่าท้ายสหัสนัยน์
ถือแหวนเพชรเม็ดใหญ่เพราะดั้นมา
ครั้นถึงจึงยื่นแหวนนั้นให้
นางรับแหวนนั้นไว้ด้วยหรรษา
แสงเพชรส่องวาบปลาบเข้าตา
ตื่นผวาคว้าทั่วปลุกผัวพลันฯ
นางเทพทองนั้นนอนหลับ
พลิกกายกลับก็เพ้อละเมอฝัน
ว่าช้างพลายตายกลิ้งตลิ่งชัน
พองขึ้นหัวนั้นเน่าโขลงไป
ยังมีนกตะกรุมหัวเหม่
บินแตร่เร่มาแต่ป่าใหญ่
อ้าปากคาบช้างแล้ววางไป
เข้าในหอกลางที่นางนอน
ในฝันนั้นวานางเรียกนก
เชิญเจ้าขรัวหัวถกมานี่ก่อน
นางคว้าได้ตัวเจ้าหัวกล้อน
กอดนกกับช้างนอนสบายใจฯ
นิมิตฝันอันแรก นางทองประศรีภรรยาขุนไกร
ฝันขณะตั้งครรภ์ว่ามีเทวดาเอาแหวนเพชรมายื่นให้
จึงได้บุตรชายคือพลายแก้วหรือต่อมาชื่อขุนแผน
นิมิตผันอันต่อมา นางเทพทอง ภรรยาขุนศรีวิชัย
เศรษฐีฝันขณะตั้งครรภ์พบว่า พบช้างตายหัวเน่า มีนกแร้งหัวแดงเถือกคาบมา
นางเรียกให้มันเข้ามาหาพอคลอดลูกออกมาเป็นขุนช้าง
จึงมีหัวล้านบานตะไทเลยมาแต่กำเนิด
|