วิธีผูกเดือนแบบเลข 7 ตัว
วิธีผูกเดือนแบบเลข 7 ตัว
ตำราพรหมชาติฉบับสมบูรณ์
โดย สำนักพิมพ์อำนาจสาส์น
วิธีผูกเดือนแบบเลข 7 ตัว
วิธีผูกดวงชะตาแบบเลข 7 ตัว ท่านให้ตีตารางเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า
แบ่งภายในตารางให้เป็นช่อง ๆ ตามด้านยาวแบ่งออกเป็น 9 ช่อง
ตามดาวนพเคราะห์ด้านขวาแบ่งออกเป็น 7 ช่อง ตามเดือนที่อย่อแล้วเหลือเพียง 7 เดือน
ดูตัวอย่างต่อไปนี้
7
6
5
4
3
2
1
ดวงชะตาของเลข 7 ตัวตามรูปตัวอย่างข้างบนนี้ แบ่งออกเป็น 7
ราศีด้วยกันคือ ชั้นสุดราศีเมษ
ตรงข้ามกับเลข 7 ต่อลงมา คือราศีพฤษก พฤศจิกายน ตรงข้ามกับเลข 6 ต่อลงมา คือ ราศี
เมถุน ธนู ตรงข้ามกับเลข 5 ต่อลงมา คือ ราศี กรกฎ มังกร ตรงข้ามกับเลข 4 ต่อลงมาคือ
ราศี สิงห์ กุมภ์ ตรงข้ามกับเลข 3 ต่อลงมาคือ ราศี กันย์ มีน ตรงข้ามกับเลข 2
ต่อลงมา คือ ราศีตุลย์ ตรงข้ามกับเลข 1 รวมเป็น 7 ราศีด้วยกัน ตามที่แบ่งนี้
แบ่งตามขวาง ส่วนตามยาว แบ่งออกเป็น 9 ช่องนั้น สำหรับที่บรรจุดงดาวนพเคราะห์
ดังนี้
ช่องหมายเลข
1
พระอาทิตย์
ประจำ
(1)
2 พระจันทร์
(2)
3 พระอังคาร
(3)
4 พระพุธ
(4)
5 พระพฤหัสบดี
(5)
6 พระศุกร์
(6)
7 พระเสาร์
(7)
8 พระราหู
(8)
9 พระเกตุ
(9)
วิธีการที่จะบรรจุดาวนพเคราะห์ ลงในราศีของดวงชะตานั้น คือ
ให้ตรวจดูเลขแถวกลางในตัวที่ผูกเป็นดเรือนร่างของเจ้าของชะตานั้น ทั้ง 9 ตัว
ดังกล่าวมาแล้วแต่ต้นนั้น ดูตัวอย่าง
3 สมมุติให้เป็น อาทิตย์
ใส่เลข
1 ลงไปแทน
6
จันทร์
2
1
อังคาร
3
5
พุธ
4
1
พฤหัสบดี
5
3
ศุกร์
6
1
เสาร์
7
4
ราหู
8
6
เกตุ
9
ตามตัวอย่างข้างต้นนี้ เมื่อจะวางอาทิตย์ (3) ลงไปในดวงชะตา
เราก็ตรวจดูว่า เลขตัวที่หนึ่งในแถวกลาง คือ ส่วนศีรษะ ที่เราสมมุตให้เป็นอาทิตย์
นั้นมีจำนวนเลขอะไร นับจากช่องอาทิตย์ จากราศีตุลย์ที่มีเลข 1
กำกับอยู่ซ้ายมือที่ต่ำสุดขึ้นไปหาราศีเมษ คือราศีที่สูงสุด
นับให้เท่าจำนวนของตัวเลขนั้น แล้วลงอาทิตย์ลงไปในราศีที่ตกนั้น โดยให้เขียนเลข 3
ลงไปแทนอาทิตย์ ส่วนจันทร์ก็ทำตามดุจเดียวกันนี้คือ
(1)
ตามตัวอย่างเลขที่สมมุติ ให้เป็นอาทิตย์ ซึ่งตรงกับเลข 1
เราก็นับช่องที่อาทิตย์ประจำจากราศีตุลย์ขึ้นไปถึงราศีเมษ คือนับจาก 6 ขึ้นไปหา 3
เท่ากับจำนวนที่สมมุติให้เป็นอาทิตย์ให้ลงอาทิตย์ไว้ในราศี สิงห์ กุมภ์
(2)
การวางจันทร์ ก็เหมือนกับวางอาทิตย์
เราตรวจดูในช่องที่จันทร์ประจำอยู่เลขของจันทร์ คือเลขตัวที่สองถัดจาดอาทิตย์
ว่าตรงกับเลขจำนวนอะไรนับจากราศีที่ต่ำสุด คือ
ราศีเมษให้เท่ากับจำนวนเลขนั้นโดยเขียนเลข 2 ลงไปแทน
ตามตัวอย่างที่ยกมานี้
เลขที่สมมุติให้เป็นจันท์ คือ เลข 6 เราก็นับช่องที่จันทร์ประจำอยู่ ก็นับจากราศีตุลย์ขึ้นไปหาราศีเมษ
คือนับจากราศีตุลย์ขึ้นไป 6 เท่าจำนวนเลขที่สมมุติให้เป็นจันทร์ ตกราศี พฤษภ์ ธนู
เราก็ลง 2 ไปแทน
(3)
การวางตัวอังคาร ลงในดวงชะตา เราก็ตรวจดูเลขตัวที่ 3 ต่อจากจันทร์
ซึ่งสมมุติให้เป็นอังคาร ว่าตรงกับเลขจำนวนอะไรแล้วนับจากราศีที่ต่ำที่สุด คือราศีตุลย์ขึ้นไป
หาราศีที่สูงที่สุด คือ ราศีเมษ ในช่องที่อังคารประจำ
นับจำนวนขึ้นไปเท่าจำนวนเลขนั้น ตกราศีใด ก็ให้ลงอังคารไว้ในราศีนั้น โดยลงเลข 3
ไปแทน
ตามตัวอย่าง
ที่ยกมานี้ เลขที่สมมุติให้เป็นอังคารคือเลข 1
เราก็นับช่องที่ดาวอังคารประจำจากราศีตุลย์ขึ้นไปหาราศีเมษเท่ากับจำนวนของเลขนั้นคงลงอังคารที่ราศี
1 คือ ราศีตุลย์
(4)
การวางพุธ ในดวงชะตาเราก็ตรวจดูว่า เลขที่ถัดจากอังคารมีจำนวนอะไร
นับแต่ราศีต่ำที่สุด คือราศีตุลย์ ขึ้นไปที่สูงที่สุด
จากช่องที่พุธประจำไปเท่ากับจำนวนเลขนั้น ตกราศีใดก็ลงเลข 4 แทนพุธในราศีที่ตกนั้น
ตามตัวอย่างที่กล่าวมานี้ เราสมมุติให้เป็นพุธที่จำนวนเลข 5
เราก็นับในช่องที่พุธประจำ จากราศีตุลย์ขึ้นไปหาราศีเมษ นับแต่ราศีตุลย์ขึ้นไป 5
ราศีคงลงพุธประจำ ราศีที่ 5 คือราศีกรกฎ กับมังกร
(5)
การวางพฤหัสบดี ลงในดวงชะตา เราก็ตรวจดูว่าเลข 5 ถัดจาตัวพุธ
มานั้นตรงกับเลขจำนวนอะไร นับแต่ราศีที่ต่ำสุด คือ ราศีตุลย์
นับขึ้นไปหาราศีที่สูงที่สุด คือ ราศีเมษ ในช่องประจำของพฤหัสบดี
เท่ากับจำนวนของเลขนั้นตมราศีใดให้วางพฤหัสบดีลงไป ในราศีนั้นโดยเขียนเลข 5 ลงไปแทน
(6)
การวางศุกร์ ลงในดวงชะตา เราก็ตรวจดูว่า เลขที่ถัดจากพฤหัสมีจำนวนอะไร
นับแต่ราศีที่ต่ำที่สุด คือราศีตุลย์ขึ้นไปหาราศีที่สูงที่สุด
คือราศีเมษจากช่องที่ศุกร์ประจำไป เท่ากับเลขจำนวนนั้น ตกราศีใดเราก็ลงเลข 6
แทนศุกร์ในราศีที่ตกนั้น
ตามตัวอย่างที่กล่าวมานี้ เราสมมุติให้ศุกร์ มีจำนวนตัวเลข 3 เราก็นับไป
จนช่องที่ศุกร์ประจำราศีตุลย์ขึ้นไปหาราศีเมษขึ้นไป 3 ราศี
คงลงศุกร์ในช่องที่ศุกร์ประจำ ที่ราศีที่ 3 คือ ราศีสิงห์ กับราศีกุมภ์
(7)
การวางเสาร์ ลงในดวงชะตา เราก็ตรวจดูว่า เลขที่ถัดจากศุกร์มีจำนวนอะไร
นับแต่ราศีที่ต่ำที่สุด คือราศีตุลย์ ขึ้นไปหาราศีที่สูงที่สุด
จากช่องที่เสาร์ประจำ ไปเท่ากับจำนวนของเลขนั้น ตกราศีใด เราก็ลงเลข 7
แทนเสาร์ลงในราศีที่ตกนั้น
ตามตัวอย่างที่กล่าวมานี้ เราสมมุติใช้เสาร์มีจำนวนเลข 1
เราก็นับไปในช่องที่เสาร์ประจำจากราศีตุลย์ขึ้นไปหาราศีเมษนับแต่ราศีตุลย์ขึ้นไป 1
ราศีคงลงเสาร์ในช่องประจำที่ราศี 1 คือ ราศีตุลย์
(8)
การวางราหู ลงในดวงชะตา เราก็ตรวจดูว่า เลขที่ถัดจากเสาร์มีจำนวนอะไร
นับแต่ราศีที่ต่ำที่สุด คือราศีตุลย์ขึ้นไปหาราศีที่สูงที่สุด
คือราศีเมษจากช่องที่ราหูไปประจำเท่ากับจำนวนเลขเท่านั้น ตกราศีมด เราก็ลงเลข 8
แทนราหูลงในราศีที่ตกนั้น
ตามตัวอย่างที่กล่าวมานี้ เราสมมุติให้ราหูจำนวนเลข 4
เราก็นับไปในช่องที่ราหูประจำจากราศีตุลย์ ขึ้นไปหาราศีเมษ นับแต่ราศีตุลย์ขึ้นไป 4
ราศี คงลงราหูในช่องที่ราหูประจำ ที่ราศีที่ 4 คือ ราศีกรกฎกับราศีมังกร
(9)
การวางเกตุ ลงในดวงชะตา เราก็ตรวจดูว่า เลขที่ถัดจากราหูมีจำนวนอะไร
นับแต่ราศีที่ต่ำที่สุด คือราศีตุลย์ ขึ้นไปหาราศีที่สูงที่สุด คือ ราศีเมษ
จากช่องที่เกตุประจำไปเท่ากับจำนวนเลข 8 แทนเกตุลงในราศีที่ตกนั้น
ตามตัวอย่างที่กล่าวมานี้ เราสมมุติให้เกตุมีจำนวน 6
เราก็นับไปในช่องที่เกตุประจำจากราศีตุลย์ ขึ้นไปหาราศีเมษ นับแต่ราศีตุลย์ขึ้น 6
ราศีคงลงเกตุในช่องที่เกตุประจำ ที่ราศี 6 คือราศีพฤศจิก
การผูกดวงชะตาของเลข 7 ตัวนั้น เมื่อลงนพเคราะห์ทั้ง 9
ลงในดวงชะตาเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็เป็นการวางลัคนา การวางลัคนาต้องอาศัยยามอัฏฐกาลตามตัวอย่างที่ยกมากล่าว
เช่น คนเกิดวันอังคาร เดือน 6 ปีชวด เวลาตกฟาก 10.15 ในวันหนึ่ง ๆ แบ่งยามเท่ากัน
ยามละ 1 ชั่วโมง 30 นาที เวลาตกฟากตามที่สมมุติคือ 10.30 น. จึงเป็นยามที่ 3
เริ่มแต่ 9.00 น. ยามที่ 3 นี้ตรงกับยาม
ศุกร์
เราก็ลงลัคนา โดยใช้เขียน ล
ย่อลงไปแทนลัคนา เกาะลงที่เลข 6 ในดวงชะตานั้น
7
6
5
4
3
2
1
|